การจัดฟันใส (Clear Aligner)

ทางเลือกใหม่เพื่อรอยยิ้มมั่นใจ โดยไม่ต้องติดเหล็ก

   ในยุคปัจจุบัน การดูแลรอยยิ้มและสุขภาพช่องปากไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงบุคลิกภาพและความมั่นใจในชีวิตประจำวันด้วย การจัดฟันจึงกลายเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานและผู้ใหญ่ที่ต้องการปรับรูปแบบรอยยิ้ม แต่ไม่อยากให้การจัดฟันส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และไลฟ์สไตล์

   การจัดฟันใส (Clear Aligner) คือการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่ไร้เหล็กและไร้ลวด ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการวางแผนการรักษา โดยทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากหรือสแกนช่องปากด้วยระบบดิจิทัล จากนั้นจึงสร้างชิ้นงานจัดฟันใสที่ออกแบบเฉพาะบุคคลขึ้นมา เพื่อให้ฟันเคลื่อนที่อย่างค่อยเป็นค่อยไปจนได้ตำแหน่งที่เหมาะสม ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยไม่ต้องติดเครื่องมือโลหะที่มองเห็นได้ชัดเจน จึงตอบโจทย์คนที่ต้องการจัดฟันแบบที่ดูเป็นธรรมชาติและรบกวนชีวิตประจำวันน้อยที่สุด

   ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันเพื่อความสวยงามหรือเพื่อการแก้ไขปัญหาการสบฟัน การจัดฟันใสถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผสมผสานทั้งประสิทธิภาพ ความสบาย และความสวยงามเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

การจัดฟันใส (Clear Aligner)

ทางเลือกใหม่เพื่อรอยยิ้มมั่นใจ โดยไม่ต้องติดเหล็ก

   ในยุคปัจจุบัน การดูแลรอยยิ้มและสุขภาพช่องปากไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงบุคลิกภาพและความมั่นใจในชีวิตประจำวันด้วย การจัดฟันจึงกลายเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานและผู้ใหญ่ที่ต้องการปรับรูปแบบรอยยิ้ม แต่ไม่อยากให้การจัดฟันส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และไลฟ์สไตล์

   การจัดฟันใส (Clear Aligner) คือการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่ไร้เหล็กและไร้ลวด ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการวางแผนการรักษา โดยทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากหรือสแกนช่องปากด้วยระบบดิจิทัล จากนั้นจึงสร้างชิ้นงานจัดฟันใสที่ออกแบบเฉพาะบุคคลขึ้นมา เพื่อให้ฟันเคลื่อนที่อย่างค่อยเป็นค่อยไปจนได้ตำแหน่งที่เหมาะสม ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยไม่ต้องติดเครื่องมือโลหะที่มองเห็นได้ชัดเจน จึงตอบโจทย์คนที่ต้องการจัดฟันแบบที่ดูเป็นธรรมชาติและรบกวนชีวิตประจำวันน้อยที่สุด

   ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันเพื่อความสวยงามหรือเพื่อการแก้ไขปัญหาการสบฟัน การจัดฟันใสถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผสมผสานทั้งประสิทธิภาพ ความสบาย และความสวยงามเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

การจัดฟันใส (Clear Aligner)

ทางเลือกใหม่เพื่อรอยยิ้มมั่นใจ โดยไม่ต้องติดเหล็ก

   ในยุคปัจจุบัน การดูแลรอยยิ้มและสุขภาพช่องปากไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงบุคลิกภาพและความมั่นใจในชีวิตประจำวันด้วย การจัดฟันจึงกลายเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานและผู้ใหญ่ที่ต้องการปรับรูปแบบรอยยิ้ม แต่ไม่อยากให้การจัดฟันส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และไลฟ์สไตล์

   การจัดฟันใส (Clear Aligner) คือการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่ไร้เหล็กและไร้ลวด ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการวางแผนการรักษา โดยทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากหรือสแกนช่องปากด้วยระบบดิจิทัล จากนั้นจึงสร้างชิ้นงานจัดฟันใสที่ออกแบบเฉพาะบุคคลขึ้นมา เพื่อให้ฟันเคลื่อนที่อย่างค่อยเป็นค่อยไปจนได้ตำแหน่งที่เหมาะสม ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยไม่ต้องติดเครื่องมือโลหะที่มองเห็นได้ชัดเจน จึงตอบโจทย์คนที่ต้องการจัดฟันแบบที่ดูเป็นธรรมชาติและรบกวนชีวิตประจำวันน้อยที่สุด

   ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันเพื่อความสวยงามหรือเพื่อการแก้ไขปัญหาการสบฟัน การจัดฟันใสถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผสมผสานทั้งประสิทธิภาพ ความสบาย และความสวยงามเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

จัดฟันใส เหมาะกับใคร?

   การจัดฟันใส (Clear Aligner) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับเรียงฟันให้สวยงามโดยไม่ต้องติดเครื่องมือโลหะ  ด้วยลักษณะที่ใส ถอดได้ และสวมใส่สบาย จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่ใส่ใจภาพลักษณ์

กลุ่มที่เหมาะกับการจัดฟันใส ได้แก่:

✅ ผู้ที่มีฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบเล็กน้อยถึงปานกลาง
✅ ผู้ที่มีฟันห่าง
✅ ผู้ที่มีปัญหาการสบฟันบางประเภท เช่น สบลึก สบเปิด (ไม่ซับซ้อน)
✅ ผู้ที่เคยจัดฟันมาแล้วแต่ฟันล้ม หรือเคลื่อนตัวหลังถอดเครื่องมือ
✅ ผู้ที่ต้องการจัดฟันโดยไม่ให้สังเกตเห็นเครื่องมือ เช่น นักธุรกิจ ครู แอร์โฮสเตส พิธีกร ฯลฯ
✅ผู้ที่ต้องการความสะดวกในการถอดเครื่องมือระหว่างรับประทานอาหารหรือแปรงฟัน

   แม้การจัดฟันใสจะเหมาะกับหลายกลุ่ม แต่ในบางกรณีที่มีปัญหาโครงสร้างขากรรไกร การสบฟันที่ซับซ้อน หรือฟันล้มรุนแรง อาจจำเป็นต้องใช้วิธีการจัดฟันแบบอื่นร่วมด้วย ซึ่งทันตแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแนะนำแนวทางที่เหมาะสมที่สุด

จัดฟันใส เหมาะกับใคร?

   การจัดฟันใส (Clear Aligner) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับเรียงฟันให้สวยงามโดยไม่ต้องติดเครื่องมือโลหะ  ด้วยลักษณะที่ใส ถอดได้ และสวมใส่สบาย จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่ใส่ใจภาพลักษณ์

กลุ่มที่เหมาะกับการจัดฟันใส ได้แก่:

✅ ผู้ที่มีฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบเล็กน้อยถึงปานกลาง
✅ ผู้ที่มีฟันห่าง
✅ ผู้ที่มีปัญหาการสบฟันบางประเภท เช่น สบลึก สบเปิด (ไม่ซับซ้อน)
✅ ผู้ที่เคยจัดฟันมาแล้วแต่ฟันล้ม หรือเคลื่อนตัวหลังถอดเครื่องมือ
✅ ผู้ที่ต้องการจัดฟันโดยไม่ให้สังเกตเห็นเครื่องมือ เช่น นักธุรกิจ ครู แอร์โฮสเตส พิธีกร ฯลฯ
✅ผู้ที่ต้องการความสะดวกในการถอดเครื่องมือระหว่างรับประทานอาหารหรือแปรงฟัน

   แม้การจัดฟันใสจะเหมาะกับหลายกลุ่ม แต่ในบางกรณีที่มีปัญหาโครงสร้างขากรรไกร การสบฟันที่ซับซ้อน หรือฟันล้มรุนแรง อาจจำเป็นต้องใช้วิธีการจัดฟันแบบอื่นร่วมด้วย ซึ่งทันตแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแนะนำแนวทางที่เหมาะสมที่สุด

ต้องใส่นานแค่ไหนและดูแลยังไง?

ระยะเวลาในการจัดฟันใสจะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของฟันแต่ละเคส โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ:
  • 6 เดือน – 18 เดือน สำหรับเคสทั่วไป

  • ต้องใส่เครื่องมือ วันละ 20–22 ชั่วโมง

  • เปลี่ยนชุด aligner ทุก 7–14 วัน ตามแผนของทันตแพทย์

หากใส่ไม่สม่ำเสมอหรือไม่ครบชั่วโมงต่อวัน อาจทำให้การรักษายืดเยื้อหรือไม่ได้ผลตามแผน


การดูแลรักษาเครื่องมือจัดฟันใส
  • ควรถอดก่อนรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสี

  • แปรงฟันทุกครั้งก่อนใส่ aligner กลับเข้าไป เพื่อป้องกันคราบสะสม

  • ล้าง aligner ด้วยน้ำเปล่าหรือสบู่อ่อน ห้ามใช้น้ำร้อนหรือน้ำยาที่กัดพลาสติก

  • พกกล่องเก็บ aligner ติดตัวตลอดเวลา เพื่อป้องกันการสูญหาย

ข้อดีของการจัดฟันใส

✅ แทบมองไม่เห็น – ช่วยเพิ่มความมั่นใจขณะพูดหรือยิ้ม
✅ ถอดได้ – ทำให้รับประทานอาหารและแปรงฟันสะดวก
✅ ไม่ระคายเคืองช่องปาก – ไม่มีลวดหรือเหล็กบาดเหงือก
✅ ใช้เทคโนโลยี 3D – เห็นแผนการรักษาและผลลัพธ์ล่วงหน้า
✅ ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อยเท่าการจัดฟันแบบเหล็ก (ในบางกรณี)

จัดฟันใส vs จัดฟันเหล็ก

คุณสมบัติ จัดฟันใส
(Clear Aligner)
จัดฟันเหล็ก
(Metal Braces)
ความสวยงาม แทบมองไม่เห็น เห็นชัดเจน
ความสะดวก ถอดออกได้ ติดแน่น ถอดไม่ได้
การทำความสะอาด แปรงฟันได้ปกติ แปรงยาก
ต้องดูแลพิเศษ
การระคายเคือง น้อยมาก อาจมีลวดทิ่มหรือเสียดสี
ความถี่ในการพบทันตแพทย์ ทุก 2-4 เดือน ทุก 1 เดือน
ราคา สูงกว่า (ตามจำนวนชุด aligner) เริ่มต้นถูกกว่า
ระยะเวลารักษา โดยเฉลี่ย 4–18 เดือน โดยเฉลี่ย 14–30 เดือน
เหมาะกับใคร ผู้มีปัญหาระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง แก้ไขได้ครอบคลุมทุกปัญหา

 

   หากคุณมองหาทางเลือกในการจัดฟันที่ดูดี สะดวกสบาย และไม่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในชีวิตประจำวัน การจัดฟันใสอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะสำหรับผู้ใหญ่หรือคนทำงานที่ต้องการดูแลรอยยิ้มอย่างมืออาชีพ

 
ควรปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันก่อนเริ่มการรักษา
เพื่อประเมินว่าเคสของคุณเหมาะกับการจัดฟันใสหรือไม่

จัดฟันใส vs จัดฟันเหล็ก

คุณสมบัติ จัดฟันใส
(Clear Aligner)
จัดฟันเหล็ก
(Metal Braces)
ความสวยงาม แทบมองไม่เห็น เห็นชัดเจน
ความสะดวก ถอดออกได้ ติดแน่น ถอดไม่ได้
การทำความสะอาด แปรงฟันได้ปกติ แปรงยาก
ต้องดูแลพิเศษ
การระคายเคือง น้อยมาก อาจมีลวดทิ่ม
หรือเสียดสี
การพบทันตแพทย์ ทุก 2-4 เดือน ทุก 1 เดือน
ราคา สูงกว่า
(ตามจำนวนชุด aligner)
เริ่มต้นถูกกว่า
ระยะเวลารักษา โดยเฉลี่ย 4–18 เดือน โดยเฉลี่ย 14–30 เดือน
เหมาะกับใคร ผู้มีปัญหาระดับ
เล็กน้อยถึงปานกลาง
แก้ไขได้ครอบคลุม
ทุกปัญหา

 

   หากคุณมองหาทางเลือกในการจัดฟันที่ดูดี สะดวกสบาย และไม่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในชีวิตประจำวัน การจัดฟันใสอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะสำหรับผู้ใหญ่หรือคนทำงานที่ต้องการดูแลรอยยิ้มอย่างมืออาชีพ

 
ควรปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันก่อนเริ่มการรักษา
เพื่อประเมินว่าเคสของคุณเหมาะกับการจัดฟันใสหรือไม่

จัดฟันใส เหมาะกับใคร?

   การจัดฟันใส (Clear Aligner) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับเรียงฟันให้สวยงามโดยไม่ต้องติดเครื่องมือโลหะ  ด้วยลักษณะที่ใส ถอดได้ และสวมใส่สบาย จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่ใส่ใจภาพลักษณ์

กลุ่มที่เหมาะกับการจัดฟันใส ได้แก่:

✅ ผู้ที่มีฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบเล็กน้อยถึงปานกลาง
✅ ผู้ที่มีฟันห่าง
✅ ผู้ที่มีปัญหาการสบฟันบางประเภท เช่น สบลึก สบเปิด (ไม่ซับซ้อน)
✅ ผู้ที่เคยจัดฟันมาแล้วแต่ฟันล้ม หรือเคลื่อนตัวหลังถอดเครื่องมือ
✅ ผู้ที่ต้องการจัดฟันโดยไม่ให้สังเกตเห็นเครื่องมือ เช่น นักธุรกิจ ครู แอร์โฮสเตส พิธีกร ฯลฯ
✅ผู้ที่ต้องการความสะดวกในการถอดเครื่องมือระหว่างรับประทานอาหารหรือแปรงฟัน

   แม้การจัดฟันใสจะเหมาะกับหลายกลุ่ม แต่ในบางกรณีที่มีปัญหาโครงสร้างขากรรไกร การสบฟันที่ซับซ้อน หรือฟันล้มรุนแรง อาจจำเป็นต้องใช้วิธีการจัดฟันแบบอื่นร่วมด้วย ซึ่งทันตแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแนะนำแนวทางที่เหมาะสมที่สุด

ต้องใส่นานแค่ไหนและดูแลยังไง?

ระยะเวลาในการจัดฟันใสจะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของฟันแต่ละเคส โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ:

  • 6 เดือน – 18 เดือน สำหรับเคสทั่วไป

  • ต้องใส่เครื่องมือ วันละ 20–22 ชั่วโมง

  • เปลี่ยนชุด aligner ทุก 7–14 วัน ตามแผนของทันตแพทย์

หากใส่ไม่สม่ำเสมอหรือไม่ครบชั่วโมงต่อวัน
อาจทำให้การรักษายืดเยื้อหรือไม่ได้ผลตามแผน


การดูแลรักษาเครื่องมือจัดฟันใส

  • ควรถอดก่อนรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสี

  • แปรงฟันทุกครั้งก่อนใส่ aligner กลับเข้าไป เพื่อป้องกันคราบสะสม

  • ล้าง aligner ด้วยน้ำเปล่าหรือสบู่อ่อน ห้ามใช้น้ำร้อนหรือน้ำยาที่กัดพลาสติก

  • พกกล่องเก็บ aligner ติดตัวตลอดเวลา เพื่อป้องกันการสูญหาย

ข้อดีของการจัดฟันใส

✅ แทบมองไม่เห็น – ช่วยเพิ่มความมั่นใจขณะพูดหรือยิ้ม
✅ ถอดได้ – ทำให้รับประทานอาหารและแปรงฟันสะดวก
✅ ไม่ระคายเคืองช่องปาก – ไม่มีลวดหรือเหล็กบาดเหงือก
✅ ใช้เทคโนโลยี 3D – เห็นแผนการรักษาและผลลัพธ์ล่วงหน้า
✅ ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อยเท่าการจัดฟันแบบเหล็ก (ในบางกรณี)

จัดฟันใส vs จัดฟันเหล็ก

คุณสมบัติ จัดฟันใส (Clear Aligner) จัดฟันเหล็ก (Metal Braces)
ความสวยงาม แทบมองไม่เห็น เห็นชัดเจน (เหล็กและยางสี)
ความสะดวก ถอดออกได้ ติดแน่น ถอดไม่ได้
การทำความสะอาดช่องปาก แปรงฟันได้ปกติ แปรงยาก ต้องดูแลพิเศษ
การระคายเคืองช่องปาก น้อยมาก อาจมีลวดทิ่มหรือเสียดสี
ความถี่ในการพบทันตแพทย์ ทุก 2-4 เดือน ทุก 1 เดือน
ราคา สูงกว่า (ตามจำนวนชุด aligner) เริ่มต้นถูกกว่า
ระยะเวลารักษา โดยเฉลี่ย 4–18 เดือน โดยเฉลี่ย 14–30 เดือน
เหมาะกับใคร ผู้มีปัญหาระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง แก้ไขได้ครอบคลุมทุกปัญหา

 

   หากคุณมองหาทางเลือกในการจัดฟันที่ดูดี สะดวกสบาย และไม่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในชีวิตประจำวัน การจัดฟันใสอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะสำหรับผู้ใหญ่หรือคนทำงานที่ต้องการดูแลรอยยิ้มอย่างมืออาชีพ

 
ควรปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันก่อนเริ่มการรักษา
เพื่อประเมินว่าเคสของคุณเหมาะกับการจัดฟันใสหรือไม่

ขั้นตอนในการจัดฟันใส

เข้ามาที่ Delite Dental Clinic
เพื่อปรึกษาคุณหมอ

คุณหมอทำการแสกนฟัน ด้วยเครื่องมือ 3 มิติ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาฟัน

รับเครื่องมือจัดฟันใสและเปลี่ยนเครื่องมือได้เองที่บ้าน (ทุก 1-2 สัปดาห์) โดยไม่จำเป็นต้องพบคุณหมอทุกเดือน

เข้าพบทันตแพทย์ทุก 3–6 เดือน
เพื่อติดตามการเคลื่อนฟัน และประเมินว่าการรักษาดำเนินไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่

จัดฟันใสที่ Delite Dental Clinic

   Delite Dental Clinic พร้อมมอบประสบการณ์จัดฟันใสที่ทันสมัยและปลอดภัยที่สุด
   เราเลือกใช้เทคโนโลยีจัดฟันใสรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA Approved) พร้อมระบบจำลองการรักษาแบบ 3 มิติ (3D Treatment Simulation) ที่ช่วยให้เห็นผลลัพธ์ก่อนเริ่มการรักษา

   คลินิกของเราให้บริการทันตกรรมและการจัดฟัน ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ภายใต้ระบบปลอดเชื้อที่ได้มาตรฐานระดับสากล โดยทีมทันตแพทย์เฉพาะทางจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งมีประสบการณ์จัดฟันใสมากกว่า 10,000 เคส ดูแลอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอน

จัดฟันใสที่ Delite Dental Clinic

   Delite Dental Clinic พร้อมมอบประสบการณ์จัดฟันใสที่ทันสมัยและปลอดภัยที่สุด
   เราเลือกใช้เทคโนโลยีจัดฟันใสรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA Approved) พร้อมระบบจำลองการรักษาแบบ 3 มิติ (3D Treatment Simulation) ที่ช่วยให้เห็นผลลัพธ์ก่อนเริ่มการรักษา

   คลินิกของเราให้บริการทันตกรรมและการจัดฟัน ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ภายใต้ระบบปลอดเชื้อที่ได้มาตรฐานระดับสากล โดยทีมทันตแพทย์เฉพาะทางจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งมีประสบการณ์จัดฟันใสมากกว่า 10,000 เคส ดูแลอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอน

โปรโมชันจดฟันใส

พิเศษ!! จัดฟันใส เริ่มต้น 29,000.-

โปรโมชันจดฟันใส

พิเศษ!! จัดฟันใส เริ่มต้น 29,000.-